บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การกำหนดระยะเวลาพำนักสำหรับวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศ รวมถึงความรู้ที่มีประโยชน์ในการได้รับระยะเวลาพำนัก 3 ปี
Table of Contents
ประโยชน์ของการได้รับระยะเวลาพำนัก 3 ปี

นอกจากนี้ การมีระยะเวลาพำนัก 3 ปีถือเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นในการยื่นคำขอใบอนุญาตพำนักถาวรด้วย
ในกรณีการยื่นคำขอใบอนุญาตพำนักถาวรจากวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศ ตามกฎหมายแล้วจะต้องมีระยะเวลาพำนัก 5 ปี แต่ในปัจจุบันจะถือว่าระยะเวลาพำนัก 3 ปีเป็นการเป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าว
หมายเหตุ: แม้จะมีระยะเวลาพำนัก 3 ปี ณ เวลาที่ยื่นคำขอ แต่หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขอื่นๆ (เช่น การพำนักอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี ฯลฯ) ก็จะไม่สามารถได้รับใบอนุญาตพำนักถาวรได้
อ้างอิง: สำนักงานบริหารการเข้าเมืองและการพำนัก | แนวทางเกี่ยวกับใบอนุญาตพำนักถาวร
(URL: https://www.moj.go.jp/isa/applications/resources/nyukan_nyukan50.html)
เกี่ยวกับประเภทของหน่วยงานที่สังกัด

รายการประเภทของหน่วยงานที่สังกัด
ประเภท 1 (หน่วยงานที่อยู่ในเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้)ประเภท 2 (หน่วยงานที่อยู่ในเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้)
ประเภท 3
องค์กรหรือบุคคลที่ยื่นตารางรวมเอกสารตามกฎหมาย เช่น ใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินได้จากเงินเดือนของปีก่อนหน้า (ยกเว้นประเภท 2)
ประเภท 4
องค์กรหรือบุคคลที่ไม่เข้าข่ายประเภท 1, 2, 3
ตรวจสอบส่วนนี้ของตารางรวมเอกสารตามกฎหมาย
ในการพิจารณาว่าจะอยู่ในประเภท 2 หรือ 3 ให้ตรวจสอบจำนวนเงินในส่วนที่มีกรอบสีแดงหากจำนวนภาษีหักณที่จ่าย 10 ล้านเยนขึ้นไปจะอยู่ในประเภท 2 หากต่ำกว่า 10 ล้านเยนจะอยู่ในประเภท 3 หากไม่เข้าใจ ให้สอบถามจากนักบัญชีที่ปรึกษาของบริษัทฯลฯ

กฎเกณฑ์การกำหนดระยะเวลาพำนักสำหรับวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศ

จากสถานการณ์การปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ยื่นคำขอ (ชาวต่างชาติ) ระยะเวลาการทำงานที่คาดการณ์ไว้ และประเภทของหน่วยงานที่สังกัด ควรจะสามารถตัดสินได้ว่ามีโอกาสสูงที่จะได้รับระยะเวลาพำนักกี่ปี
เงื่อนไขของระยะเวลาพำนัก 5 ปี
เพื่อให้ได้รับระยะเวลาพำนัก 5 ปี จำเป็นต้องเป็นไปตามเงื่อนไข 4 ข้อต่อไปนี้ทั้งหมดหากหน่วยงานที่สังกัดอยู่ในประเภท 1 หรือ 2 จะสามารถได้รับระยะเวลาพำนัก 5 ปีได้ค่อนข้างง่าย เนื่องจากระยะเวลาสูงสุดที่ได้รับอนุญาตสำหรับวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศคือ 5 ปี หากเป็นไปได้ให้ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นไปตามเงื่อนไข 4 ข้อข้างต้น
หมายเหตุ: แม้จะเป็นไปตามเงื่อนไขข้างต้นแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับการกำหนดระยะเวลาพำนักที่สั้นกว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การปฏิบัติตามภาระหน้าที่สาธารณะและลักษณะของงานที่ปฏิบัติ
เงื่อนไขของระยะเวลาพำนัก 3 ปี
มีวิธีการได้รับระยะเวลาพำนัก 3 ปี อยู่ 3 รูปแบบ■ รูปแบบ 1: เป็นไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้ทั้งหมด
สรุปเนื้อหาของรูปแบบนี้คือ ระยะเวลาการทำงานที่คาดการณ์ไว้ 1-3 ปี ส่วนอื่นๆ เหมือนกับเงื่อนไขการกำหนดระยะเวลาพำนัก 5 ปี หากหน่วยงานที่สังกัดอยู่ในประเภท 1 หรือ 2 จะสามารถเป็นไปตามเงื่อนไข 3 ปีได้ค่อนข้างง่าย
เป็นภาพลักษณ์ว่า แม้จะมีสถานการณ์การพำนักที่ดีจนให้ระยะเวลาพำนัก 5 ปีก็ไม่มีปัญหา แต่เนื่องจากระยะเวลาการทำงานที่คาดการณ์ไว้อยู่ภายใน 3 ปี จึงให้ระยะเวลาพำนัก 3 ปี
■ รูปแบบ 2: เป็นไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้ทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น สถานการณ์ต่อไปนี้จะอยู่ในรูปแบบนี้
ตัวอย่าง 1: ผู้ที่เคยได้รับระยะเวลาพำนัก 5 ปีด้วยวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศ เปลี่ยนงานไปบริษัทจดทะเบียน (ประเภท 1) แต่ลืมแจ้งการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานที่สังกัด
ตัวอย่าง 2: ผู้ที่เคยได้รับระยะเวลาพำนัก 5 ปีด้วยวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศ ย้ายที่อยู่แต่เลยกำหนดการแจ้งการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย
เป็นภาพลักษณ์ว่า ผู้ที่เคยได้รับระยะเวลาพำนัク 5 ปีแต่ละเลยการปฏิบัติตามหน้าที่ จะถูกลดระดับเป็น 3 ปี
■ รูปแบบ 3: กรณีที่ไม่เข้าข่ายระยะเวลาพำนัก 5 ปี 1 ปี หรือ 3 เดือน
หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของระยะเวลาพำนัก 5 ปี 1 ปี หรือ 3 เดือน จะได้รับการกำหนดระยะเวลาพำนัก 3 ปี รูปแบบนี้มีความสำคัญมาก แม้จะได้รับระยะเวลาพำนัก 1 ปีเท่านั้นทุกครั้ง แต่ในทางทฤษฎี หากเตรียมการไม่ให้เข้าข่ายเงื่อนไขของระยะเวลาพำนัก 1 ปีและ 3 เดือนที่จะกล่าวถึงต่อไป ก็สามารถเพิ่มโอกาสในการได้รับระยะเวลาพำนัก 3 ปีขึ้นไปได้
เงื่อนไขของระยะเวลาพำนัก 1 ปี
ระยะเวลาพำนัก 1 ปี จะได้รับการกำหนดเมื่อเข้าข่ายรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งในทั้ง 4 รูปแบบต่อไปนี้■ รูปแบบ 1: เข้าข่ายดังต่อไปนี้
หน่วยงานที่สังกัดซึ่งอยู่ในประเภท 4 หมายถึง องค์กรหรือบุคคลที่ไม่ได้ยื่นตารางรวมเอกสารตามกฎหมาย เช่น ใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินได้จากเงินเดือนของปีก่อนหน้า
■ รูปแบบ 2: เป็นไปตามเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อต่อไปนี้
ต้องระวังเพราะหากละเลยการปฏิบัติตามหน้าที่ จะทำให้การได้รับระยะเวลาพำนัก 3 ปีเป็นเรื่องยาก
■ รูปแบบ 3: เข้าข่ายดังต่อไปนี้
เงื่อนไขนี้มีความสำคัญมาก หากได้รับระยะเวลาพำนัก 1 ปีเท่านั้นทุกครั้งและไม่ทราบสาเหตุ มีโอกาสสูงที่จะเข้าข่ายรูปแบบนี้ หากสามารถทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตัดสินว่า “ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบสถานการณ์การพำนักปีละ 1 ครั้ง” ก็จะเพิ่มโอกาสในการได้รับระยะเวลาพำนัก 3 ปี เมื่อยื่นคำขอต่ออายุระยะเวลาพำนัก ควรเน้นการนำเสนอตำแหน่งในการทำงานและผลงานกิจกรรมอย่างเข้มข้น
■ รูปแบบ 4: เข้าข่ายดังต่อไปนี้
หากระยะเวลาการทำงานที่คาดการณ์ไว้ 1 ปีหรือต่ำกว่า โดยหลักการแล้วจะได้รับการกำหนดระยะเวลาพำนัก 1 ปี อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นการจ้างงานมีกำหนดที่ระยะเวลาสัญญาคงเหลือ 1 ปีหรือต่ำกว่า หากคาดว่าจะมีการต่อสัญญาจากผลงานในอดีต ก็อาจจะไม่ถูกตัดสินว่าเข้าข่ายรูปแบบนี้
เงื่อนไขของระยะเวลาพำนัก 3 เดือน
เงื่อนไขที่จะได้รับระยะเวลาพำนัก 3 เดือนมีเพียงข้อเดียวหากได้รับอนุญาตด้วยสัญญาจ้างงานที่เกิน 3 เดือน จะได้รับการกำหนดระยะเวลา 1 ปีขึ้นไปเสมอ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลกับเงื่อนไขนี้มากนัก
สิ่งที่ควรรู้เพื่อให้ได้รับระยะเวลาพำนัก 3 ปี

สิ่งที่จำเป็นในการได้รับระยะเวลา 3 ปีสำหรับประเภท 2 ขึ้นไป
ในกรณีที่อยู่ในประเภท 2 ขึ้นไป หากปฏิบัติตามหน้าที่การแจ้งต่างๆ อย่างครบถ้วน จะสามารถได้รับระยะเวลาพำนัก 3 ปีได้ค่อนข้างง่าย หากอยู่ในประเภทนี้ การเสริมด้วยเอกสารเพิ่มเติม เช่น รายละเอียดของงาน เหตุผลในการจ้างงาน ความจำเป็นของการมีระยะเวลาพำนักที่ยาวนาน ก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับระยะเวลาพำนัก 5 ปีสิ่งที่จำเป็นในการได้รับระยะเวลา 3 ปีสำหรับประเภท 3
เพื่อให้ได้รับระยะเวลาพำนัก 3 ปีสำหรับประเภท 3 จำเป็นต้องเป็นไปตามเงื่อนไข 5 ข้อต่อไปนี้การพิสูจน์ข้อที่ 4 ค่อนข้างยาก แต่ให้พิจารณาการแก้ไขรวมถึง “วิธีการยกระดับประเภทของบริษัทที่สังกัด” ซึ่งจะกล่าวถึงต่อไป
ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อการกำหนดระยะเวลาพำนัก
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายประการที่มีผลต่อการกำหนดระยะเวลาพำนัก ขอแนะนำดังต่อไปนี้วิธีการยกระดับประเภทของบริษัทที่สังกัด

วิธีการยกระดับเป็นประเภท 1
หากหน่วยงานที่สังกัดได้รับการรับรองให้เป็น “บริษัทและอื่นๆ ที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด” ข้อใดข้อหนึ่ง ก็จะถูกจัดอยู่ในประเภท 1 ในการตรวจสอบวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศ ทำให้ได้รับระยะเวลาพำนักที่ยาวนานได้ง่ายขึ้น แม้จะมีการรับรองที่จำกัดตามประเภทธุรกิจหรือต้องมีขนาดธุรกิจใหญ่จึงจะได้รับการรับรองได้ยาก แต่ “องค์กรชั้นนำด้านการจัดการสุขภาพ” เป็นต้น ก็เป็นการรับรองที่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถได้รับได้ค่อนข้างง่าย■ วิธีการเป็นบริษัทและอื่นๆ ที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด
หากบริษัทที่สังกัดอยู่แล้วเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่ง การยื่นสำเนาของเอกสารพิสูจน์ เช่น ใบรับรอง จะทำให้ถูกจัดอยู่ในประเภท 1
อ้างอิง: สำนักงานบริหารการเข้าเมืองและการพำนัก | เกี่ยวกับบริษัทและอื่นๆ ที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด
(URL: https://www.moj.go.jp/isa/content/930004712.pdf)
วิธีการยกระดับจากประเภท 3 เป็นประเภท 2
หน่วยงานที่สังกัดซึ่งอยู่ในประเภท 3 สามารถย้ายไปเป็นประเภท 2 ได้ โดยการได้รับ “ใบรับรองผู้รับมอบหมายการยื่นคำขอฯ” แล้วยื่นคำขอใช้ระบบออนไลน์สำหรับการยื่นคำขอพำนักทางไปรษณีย์หรือที่หน้าต่างบริการ และได้รับอนุมัติให้รับมอบหมายการยื่นคำขอออนไลน์“ใบรับรองผู้รับมอบหมายการยื่นคำขอฯ” คือ ใบรับรองคุณสมบัติการรับมอบหมายที่พนักงานของหน่วยงานที่สังกัดและอื่นๆ ได้รับจากการอนุมัติล่วงหน้าของผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการเข้าเมืองและการพำนักท้องถิ่น เพื่อยกเว้น “หลักการมาติดต่อด้วยตนเอง” ซึ่งกำหนดให้ชาวต่างชาติ (หรือตัวแทน) ต้องมาดำเนินการที่สำนักงานบริหารการเข้าเมืองและการพำนักท้องถิ่นด้วยตนเองในการดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับวีซ่าของชาวต่างชาติ
เมื่อพนักงานของหน่วยงานที่สังกัดจะได้รับใบรับรองผู้รับมอบหมายการยื่นคำขอฯ จำเป็นต้องเป็นไปตามเงื่อนไข 2 ข้อต่อไปนี้
อย่างไรก็ตาม แม้จะย้ายไปเป็นประเภท 2 ด้วยวิธีการนี้ ตอนยื่นคำขอก็ยังจำเป็นต้องยื่น “เอกสารพิสูจน์ว่าเป็นไปตามเกณฑ์ประเภท 3”
อ้างอิง: สำนักงานบริหารการเข้าเมืองและการพำนัก | เกี่ยวกับระบบการรับมอบหมายการยื่นคำขอฯ
(URL: https://www.moj.go.jp/isa/applications/procedures/nyuukokukanri07_00262.html)
อ้างอิง: สำนักงานบริหารการเข้าเมืองและการพำนัก | ขั้นตอนการอนุมัติเป็นผู้รับมอบหมายการยื่นคำขอฯ
(URL: https://www.moj.go.jp/isa/applications/procedures/nyuukokukanri07_00248.html)
อ้างอิง: สำนักงานบริหารการเข้าเมืองและการพำนัก | ขั้นตอนออนไลน์สำหรับการยื่นคำขอพำนัก
(URL: https://www.moj.go.jp/isa/applications/online/onlineshinsei.html)
การเสริมเอกสารพิสูจน์ในการตรวจสอบ

นอกจากนี้ แม้จะทำงานในบริษัทประเภท 2 ขึ้นไป การเสริมเอกสารพิสูจน์ก็ยังมีผลในการเพิ่มโอกาสที่จะได้รับการกำหนดระยะเวลาพำนักที่ยาวนานยิ่งขึ้น
การระบุรายละเอียดของเนื้อหากิจกรรม
ใบสมัครวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศมีหัวข้อ “รายละเอียดเนื้อหากิจกรรม” ซึ่งอธิบายเกี่ยวกับเนื้อหาการทำงาน แต่ในใบสมัครมีพื้นที่ให้กรอกเพียง 2 บรรทัดเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจากประโยคสั้นๆ เท่านั้น ไม่สามารถทราบได้ว่าเนื้อหาการทำงานเข้าข่ายกิจกรรมของวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศจริงหรือไม่ จึงมักจะตัดสินใจว่า “ครั้งนี้ให้ระยะเวลา 1 ปีไว้ดูสถานการณ์ก่อน”เพื่อเสริมส่วนนี้ ให้ระบุในใบสมัครว่า “ดูเอกสารแนบหนังสือชี้แจงเหตุผลการจ้างงาน” “ดูเอกสารแนบรายละเอียดคำอธิบายเนื้อหากิจกรรม” เป็นต้น แล้วยื่นเอกสารเพิ่มเติมที่ระบุเนื้อหาการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม
หมายเหตุ: ชื่อเอกสารเพิ่มเติมสามารถตั้งได้ตามต้องการ
เอกสารที่อธิบายรายละเอียดเนื้อหาการทำงาน โดยหลักการแล้วควรให้พนักงานของบริษัทที่จ้างงานชาวต่างชาติด้วยวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศเป็นผู้จัดทำ เนื่องจากรายละเอียดเนื้อหากิจกรรมเป็นหัวข้อที่ระบุในใบสมัคร “สำหรับหน่วยงานที่สังกัดจัดทำ” และเป็นสิ่งที่หน่วยงานที่สังกัดเป็นฝ่ายตัดสินใจเนื้อหา ดังนั้นเอกสารเพิ่มเติมก็ควรให้หน่วงานที่สังกัดเป็นผู้จัดทำตามหลักการ
เนื้อหาที่ระบุควรอธิบายตารางเวลา 1 วันและรายละเอียดของงานที่ปฏิบัติในกระดาษ A4 ประมาณ 1 แผ่น โดยอธิบายให้เป็นรูปธรรมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากเนื้อหาการทำงานเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา ให้ระบุตารางเวลารายปีด้วย หากสามารถอธิบายเนื้อหาการทำงานอย่างละเอียดและทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเชื่อว่า “เข้าข่ายกิจกรรมของวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศอย่างแน่นอน” ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะได้รับการตัดสินว่า “ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบสถานการณ์การพำนักปีละ 1 ครั้ง”
นอกจากนี้ หากมีการกำหนดระยะเวลาการฝึกปฏิบัติงาน ให้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาการฝึกอบรมด้วย หากในระหว่างการฝึกอบรมต้องปฏิบัติงานที่ไม่เข้าข่ายวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศ โดยหลักการแล้วจะได้รับระยะเวลาพำนัก 1 ปีเท่านั้น แต่อย่าปิดบังข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้ระยะเวลาพำนักที่ยาวนาน
การอธิบายความจำเป็นของระยะเวลาพำนัก 3 ปี
ให้อธิบายประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับจากการให้ระยะเวลาพำนักที่ยาวนานแก่ชาวต่างชาตินั้น ตัวอย่างเช่น “ความจำเป็นในการมอบหมายชาวต่างชาตินั้นให้อยู่ในตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น” หรือ “เหตุผลที่จำเป็นต้องใช้ชาวต่างชาตินั้นในการดำเนินกลยุทธ์การบริหารระยะยาว” เป็นต้น หากสามารถอธิบายให้เกิดความเชื่อมั่นได้ ก็จะเพิ่มโอกาสในการได้รับระยะเวลาพำนัก 3 ปีชื่อเรื่องของเอกสารประกอบที่จัดทำขึ้น สามารถกำหนดได้อย่างอิสระ เช่น “หนังสือชี้แจงเหตุผลการยื่นคำขอ” “หนังสือชี้แจงเหตุผลการจ้างงาน” เป็นต้น การระบุไว้ในเอกสารที่อธิบายรายละเอียดเนื้อหากิจกรรมก็ไม่มีปัญหา
การนำเสนอผลงานกิจกรรมของหน่วยงานที่สังกัด
ในกฎระเบียบภายใน “คู่มือการตรวจสอบการเข้าเมืองและการพำนัก” ที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองใช้ในการตรวจสอบวีซ่า มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่เพียงแต่ผลงานกิจกรรมของผู้ยื่นคำขอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลงานกิจกรรมของหน่วยงานที่สังกัดด้วยที่จะเป็นข้อพิจารณาในการกำหนดระยะเวลาพำนักให้นำเสนออย่างเข้มข้นเกี่ยวกับ “ผลงานการจ้างงานชาวต่างชาติ” “ผลงานการบริหารในสาขาการทำงานที่ชาวต่างชาติด้วยวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศปฏิบัติงาน” และ “ความเข้าใจต่อระบบการจัดการการเข้าเมืองและการพำนัก” ของหน่วยงานที่สังกัด
สรุป
บทความนี้ได้แนะนำวิธีการเพิ่มโอกาสในการได้รับระยะเวลาพำนักที่ยาวนานเมื่อยื่นคำขอวีซ่าเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศ ลำดับขั้นตอนที่ดีคือ ก่อนอื่นให้ตรวจสอบว่ามีวิธีการยกระดับประเภทของหน่วยงานที่สังกัดหรือไม่ จากนั้นจึงพิจารณาการเสริมเอกสารพิสูจน์ เช่น “รายละเอียดเนื้อหากิจกรรม” “ความจำเป็นของระยะเวลาพำนักที่ยาวนาน” “การอธิบายผลงานกิจกรรมของหน่วยงานที่สังกัด” เป็นต้นการตรวจสอบวีซ่าหากมีจิตสำนึกที่ทั้ง “ผู้ยื่นคำขอ (ชาวต่างชาติ)” และ “หน่วยงานที่สังกัด” ร่วมมือกันในการยื่นคำขอ ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดี
บทความนี้เป็นการแปลจากต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น